stephen curry
- รับลิงก์
- X
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
สตีเฟน เคอร์รี่ จอมแม่นสามแต้ม ผู้ทำลายทุกสถิติใน NBA
เรื่อง: Arinn
หากไมเคิล จอร์แดน คือนักบาสที่เก่งที่สุดเท่าที่โลกนี้เคยมีมา เป็นผู้ทำให้คนทั่วโลกรู้จักบาสเกตบอล NBA แล้วละก็ สตีเฟน เคอร์รี่ ก็คงเป็นนักบาสเกตบอลที่แม่นที่สุดในเวลานี้กระมัง เขาชู้ตแม่นทั้ง 2 คะแนนและ 3 คะแนน ยิงได้จากทุกมุมของสนาม สร้างสรรค์โอกาสเองได้ แถมยิงเร็วจนเป็นสถิติ เป็นพอยต์การ์ดที่ครบเครื่องที่สุดคนหนึ่ง และตอนนี้คนทั้งโลกดู NBA เพราะผู้ชายคนนี้
สตีเฟน เคอร์รี่ (Stephen Curry) เกิดวันที่ 14 มีนาคม 1988 อายุ 28 ปี เป็นลูกชายของอดีตนักบาสเกตบอลชื่อดังอย่าง Dell Curry และแน่นอนลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น เคอร์รี่ชื่นชอบกีฬาบาสเกตบอลมาตั้งแต่เด็กๆ ทว่าชีวิตของเขาก็มีอุปสรรคอยู่บ้าง ในช่วงเรียนจบมัธยมเพื่อเข้าต่อในมหาวิทยาลัย ไม่มีมหาวิทยาลัยที่โด่งดังเรื่องบาสเกตบอลยอมรับเคอร์รี่เข้าเรียนในฐานะนักกีฬาบาสเก็ตบอล ด้วยเหตุผลว่าเขารูปร่างผอมบางและเตี้ยเกินไป (ตอนนี้เคอร์รี่สูง 191 ซม.) ทำให้เจ้าตัวตัดสินใจเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยเดวิดสัน (Davidson College) ซึ่งไม่โด่งดังเรื่องบาสเกตบอล แถมไม่เคยได้แชมป์บาสมหาวิทยาลัยตั้งแต่ปี 1969
คนจะเก่งอยู่ที่ไหนก็เก่ง ตลอดระยะเวลาที่เรียนที่เดวิดสัน เขาพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา ขยันซ้อม เชื่อฟังโค้ช ใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย ทำให้ฝีมือของเคอร์รี่พัฒนาขึ้นมาอย่างรวดเร็วและฉายแววความเก่งออกมาเรื่อยๆ โดยตั้งแต่ปี 2006-2009 เจ้าตัวเป็นผู้เล่นที่ทำคะแนนสูงสุดของมหาวิทยาลัยเดวิดสันได้ 2,635 คะแนน ยิงสามแต้มมากที่สุด 414 คะแนน ทำแต้มเกิน 30 แต้มได้ถึง 30 เกม และเกิน 40 แต้มถึง 6 เกม ชนิดที่สถิตินี้ไม่มีใครเคยทำได้มาก่อน
ปี 2009 เคอร์รี่ถูกดราฟท์เข้า NBA เป็นครั้งแรกกับทีม Golden State Warriors ฟันเงินค่าสัญญา 4 ปีถึง 12.7 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยปีแรกใน NBA เคอร์รี่โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมทั้งจ่ายและยิง สถิติในปีแรกสวยหรูเฉลี่ย 17.5 คะแนน, 5.9 แอสซิสต์ต่อเกม คว้าอันดับสองผู้เล่นดาวรุ่งยอดเยี่ยมไปครอง
แต่แล้วในปี 2011 เป็นปีโชคร้ายของเคอร์รี่อย่างแท้จริง เจ้าตัวได้รับอาการบาดเจ็บที่ข้อเท้า ผ่าตัดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทำให้เขาลงเล่นแค่ 26 เกม แต้มเฉลี่ยต่อเกมก็ลดลงเหลือแค่ 14.7 คะแนน หลังผ่านฤดูกาลอันโหดร้าย ในปี 2012 เจ้าตัวก็ได้รับสัญญาใหม่มูลค่าถึง 44 ล้านเหรียญ และ Golden State Warriors ก็สร้างทีมโดยมีเคอร์รี่เป็นศูนย์กลาง ได้ Klay Thompson อีกหนึ่งจอมแม่นห่วงมาร่วมทีม และเล่นเข้าขากับเคอร์รี่เป็นอย่างมาก จนได้ฉายาว่า ‘The Splash Brothers’ แม้จะยังไปไม่ถึงแชมป์ แต่เคอร์รี่ตอบแทนต้นสังกัดด้วยฟอร์มอันยอดเยี่ยม มีสถิติเกิดขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการทำ 54 แต้มในเกมเดียว ยิงสามแต้มเข้ามากที่สุดในหนึ่งซีซั่นถึง 272 ครั้ง
ปี 2014 เคอร์รี่ร้อนแรงเอามากๆ ด้วยการทำสถิติยิงสามแต้มครบ 1,000 คะแนนเร็วที่สุดใน NBA ใช้เวลาไปเพียง 369 เกม พาทีม Golden State Warriors ชนะมากที่สุดใน NBA ถึง 67 เกม พาทีมเป็นแชมป์ NBA ประจำฤดูกาล 2014-2015 แถมได้รับการโหวตให้เป็นผู้เล่นยอดยอดเยี่ยมที่สุดประจำฤดูกาล หรือ MVP ด้วยสถิติเฉลี่ยทำแต้ม 23.8 คะแนนกับอีก 7.7 แอสซิสต์ต่อเกม
แน่นอนความยอดเยี่ยมของเคอร์รี่เกิดจากการซ้อมอย่างหนัก เขาจะซ้อมยิงสามแต้มจากทุกมุมของสนาม อีกอย่างคือเทคนิคการยิงที่ไม่เหมือนใคร เคอร์รี่จะใช้การกระโดดขึ้นยิงแล้วปล่อยบอลออกจากมือในจังหวะที่ลอยตัวสูงสุด ทำให้เขาแทบไม่เคยโดนบล็อคลูกยิงเลย ต่างจากนักบาสที่แม่นสามแต้มคนอื่นๆ ที่มักจะปล่อยบอลในจังหวะที่ตัวตกลงมา
ด้านชีวิตส่วนตัว เขามาจากครอบครัวที่อบอุ่น เคอร์รี่คบกับภรรยา Ayesha ตั้งแต่อายุ 14 ปี จนตอนนี้มีลูกสาวด้วยกันหนึ่งคนชื่อ Riley แม้จะเป็นซูเปอร์สตาร์แล้วก็ตาม แต่เขาก็ใช้ชีวิตเรียบง่าย ห้องนอนที่ธรรมดา ไม่ใช้ของฟุ่มเฟือย รักครอบครัวมาก และเคร่งศาสนาแบบสุดๆ
การเป็นนักบาสที่เก่งนั้นไม่ยาก แต่การเป็นนักบาสที่ได้รับการยอมรับจากนักกีฬาด้วยกันเองและคนดูนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย สตีเฟน เคอร์รี่ ถือเป็นอีกหนึ่งนักบาสเก็ตบอลที่มีทั้งสองอย่างในตัว ดั่งวลีฮิตประจำตัวเขาที่ว่า “I can do all things”
หากไมเคิล จอร์แดน คือนักบาสที่เก่งที่สุดเท่าที่โลกนี้เคยมีมา เป็นผู้ทำให้คนทั่วโลกรู้จักบาสเกตบอล NBA แล้วละก็ สตีเฟน เคอร์รี่ ก็คงเป็นนักบาสเกตบอลที่แม่นที่สุดในเวลานี้กระมัง เขาชู้ตแม่นทั้ง 2 คะแนนและ 3 คะแนน ยิงได้จากทุกมุมของสนาม สร้างสรรค์โอกาสเองได้ แถมยิงเร็วจนเป็นสถิติ เป็นพอยต์การ์ดที่ครบเครื่องที่สุดคนหนึ่ง และตอนนี้คนทั้งโลกดู NBA เพราะผู้ชายคนนี้
สตีเฟน เคอร์รี่ (Stephen Curry) เกิดวันที่ 14 มีนาคม 1988 อายุ 28 ปี เป็นลูกชายของอดีตนักบาสเกตบอลชื่อดังอย่าง Dell Curry และแน่นอนลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น เคอร์รี่ชื่นชอบกีฬาบาสเกตบอลมาตั้งแต่เด็กๆ ทว่าชีวิตของเขาก็มีอุปสรรคอยู่บ้าง ในช่วงเรียนจบมัธยมเพื่อเข้าต่อในมหาวิทยาลัย ไม่มีมหาวิทยาลัยที่โด่งดังเรื่องบาสเกตบอลยอมรับเคอร์รี่เข้าเรียนในฐานะนักกีฬาบาสเก็ตบอล ด้วยเหตุผลว่าเขารูปร่างผอมบางและเตี้ยเกินไป (ตอนนี้เคอร์รี่สูง 191 ซม.) ทำให้เจ้าตัวตัดสินใจเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยเดวิดสัน (Davidson College) ซึ่งไม่โด่งดังเรื่องบาสเกตบอล แถมไม่เคยได้แชมป์บาสมหาวิทยาลัยตั้งแต่ปี 1969
คนจะเก่งอยู่ที่ไหนก็เก่ง ตลอดระยะเวลาที่เรียนที่เดวิดสัน เขาพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา ขยันซ้อม เชื่อฟังโค้ช ใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย ทำให้ฝีมือของเคอร์รี่พัฒนาขึ้นมาอย่างรวดเร็วและฉายแววความเก่งออกมาเรื่อยๆ โดยตั้งแต่ปี 2006-2009 เจ้าตัวเป็นผู้เล่นที่ทำคะแนนสูงสุดของมหาวิทยาลัยเดวิดสันได้ 2,635 คะแนน ยิงสามแต้มมากที่สุด 414 คะแนน ทำแต้มเกิน 30 แต้มได้ถึง 30 เกม และเกิน 40 แต้มถึง 6 เกม ชนิดที่สถิตินี้ไม่มีใครเคยทำได้มาก่อน
ปี 2009 เคอร์รี่ถูกดราฟท์เข้า NBA เป็นครั้งแรกกับทีม Golden State Warriors ฟันเงินค่าสัญญา 4 ปีถึง 12.7 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยปีแรกใน NBA เคอร์รี่โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมทั้งจ่ายและยิง สถิติในปีแรกสวยหรูเฉลี่ย 17.5 คะแนน, 5.9 แอสซิสต์ต่อเกม คว้าอันดับสองผู้เล่นดาวรุ่งยอดเยี่ยมไปครอง
แต่แล้วในปี 2011 เป็นปีโชคร้ายของเคอร์รี่อย่างแท้จริง เจ้าตัวได้รับอาการบาดเจ็บที่ข้อเท้า ผ่าตัดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทำให้เขาลงเล่นแค่ 26 เกม แต้มเฉลี่ยต่อเกมก็ลดลงเหลือแค่ 14.7 คะแนน หลังผ่านฤดูกาลอันโหดร้าย ในปี 2012 เจ้าตัวก็ได้รับสัญญาใหม่มูลค่าถึง 44 ล้านเหรียญ และ Golden State Warriors ก็สร้างทีมโดยมีเคอร์รี่เป็นศูนย์กลาง ได้ Klay Thompson อีกหนึ่งจอมแม่นห่วงมาร่วมทีม และเล่นเข้าขากับเคอร์รี่เป็นอย่างมาก จนได้ฉายาว่า ‘The Splash Brothers’ แม้จะยังไปไม่ถึงแชมป์ แต่เคอร์รี่ตอบแทนต้นสังกัดด้วยฟอร์มอันยอดเยี่ยม มีสถิติเกิดขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการทำ 54 แต้มในเกมเดียว ยิงสามแต้มเข้ามากที่สุดในหนึ่งซีซั่นถึง 272 ครั้ง
ปี 2014 เคอร์รี่ร้อนแรงเอามากๆ ด้วยการทำสถิติยิงสามแต้มครบ 1,000 คะแนนเร็วที่สุดใน NBA ใช้เวลาไปเพียง 369 เกม พาทีม Golden State Warriors ชนะมากที่สุดใน NBA ถึง 67 เกม พาทีมเป็นแชมป์ NBA ประจำฤดูกาล 2014-2015 แถมได้รับการโหวตให้เป็นผู้เล่นยอดยอดเยี่ยมที่สุดประจำฤดูกาล หรือ MVP ด้วยสถิติเฉลี่ยทำแต้ม 23.8 คะแนนกับอีก 7.7 แอสซิสต์ต่อเกม
แน่นอนความยอดเยี่ยมของเคอร์รี่เกิดจากการซ้อมอย่างหนัก เขาจะซ้อมยิงสามแต้มจากทุกมุมของสนาม อีกอย่างคือเทคนิคการยิงที่ไม่เหมือนใคร เคอร์รี่จะใช้การกระโดดขึ้นยิงแล้วปล่อยบอลออกจากมือในจังหวะที่ลอยตัวสูงสุด ทำให้เขาแทบไม่เคยโดนบล็อคลูกยิงเลย ต่างจากนักบาสที่แม่นสามแต้มคนอื่นๆ ที่มักจะปล่อยบอลในจังหวะที่ตัวตกลงมา
ด้านชีวิตส่วนตัว เขามาจากครอบครัวที่อบอุ่น เคอร์รี่คบกับภรรยา Ayesha ตั้งแต่อายุ 14 ปี จนตอนนี้มีลูกสาวด้วยกันหนึ่งคนชื่อ Riley แม้จะเป็นซูเปอร์สตาร์แล้วก็ตาม แต่เขาก็ใช้ชีวิตเรียบง่าย ห้องนอนที่ธรรมดา ไม่ใช้ของฟุ่มเฟือย รักครอบครัวมาก และเคร่งศาสนาแบบสุดๆ
การเป็นนักบาสที่เก่งนั้นไม่ยาก แต่การเป็นนักบาสที่ได้รับการยอมรับจากนักกีฬาด้วยกันเองและคนดูนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย สตีเฟน เคอร์รี่ ถือเป็นอีกหนึ่งนักบาสเก็ตบอลที่มีทั้งสองอย่างในตัว ดั่งวลีฮิตประจำตัวเขาที่ว่า “I can do all things”
- รับลิงก์
- X
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น